เราเชื่อว่าพื้นที่ที่ชาวบางมูลนากร่วมกันพัฒนาโดยมีภาครัฐ
ให้การสนับสนุนนั้น จะเป็นต้นแบบการพัฒนาที่ยั่งยืน
ประธานมูลนิธิแก้วคุ้มครอง คุณเมตตา สุขสวคนธ์
คณะผู้จัดทำ เขต เส็งพานิช/ อภิสิทธิ์ ประวัติเมือง/
ประเสริฐ ตระการศิริ/ อัจฉริยา ขำแป้น
ประสานงาน วิลาวรรณ คงสิบ
ให้เสียง ชฎานันท์ สร้อยสุข
ดนตรี ปัณณ์ เส็งพานิช
สร้างสรรค์ ธีระศักดิ์ มะลิวรรณ
มูลนิธิแก้วคุ้มครอง ภายใต้การนำของ คุณเมตตา สุขสวคนธ์ ประธานมูลนิธิ และคุณ เขต เส็งพานิช รองประธานมูลนิธิขอกราบขอบพระคุณนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเยือนตลาดบางมูลนาก ชมตลาดฟื้นอดีตบางมูลนาก และ สักการะเจ้าพ่อแก้ว
ขอบคุณในการต้อนรับอย่างอบอุ่น ชื่นชม อุดมการณ์ ความคิดของกรรมการมูลนิธิฯ และประชาชนทุก ๆ คน ทั้งในพื้นที่ตลาดและนอกพื้นที่ ช่วยกัน รักษามรดกเหล่านี้ ไว้ให้นานเท่านาน ไปยังคนรุ่นหลังได้ภูมิใจ ขอบคุณท่านองคมนตรีเกษมฯ และทุกคนด้วยใจจริง
ด้วยรักและห่วงใยเสมอ
รัก
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา/30 มกราคม 2566
"มัคคุเทศก์น้อย" ช่วยขับเคลื่อนตลาดฟื้นอดีตบางมูลนาก เมืองน่าอยู่
พลังเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่สามารถสร้างสรรค์และพัฒนาท้องถิ่นของตนเองได้ในหลายด้าน หนึ่งในนี้ คือ การเป็น "มัคคุเทศก์น้อย" ช่วยขับเคลื่อนตลาดฟื้นอดีตบางมูลนาก เมืองน่าอยู่ ต้อนรับนักท่องเที่ยว /ติดตามได้ใน "มุมข่าวเยาวชน"
รื้อ ฟื้น คืนความทรงจำ จากสถานีรถไฟ ถึงพิพิธภัณฑ์ชาวบางมูลนากและตลาดฟื้นอดีต
แสงแดดเจิดจ้าสาดส่องต้องหมู่เรือนไม้ ส่วนหนึ่งของชุมชนชาวบางมูลนาก ซึ่งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำน่านมายาวนานกว่าร้อยปี ก่อเป็นภาพอันสงบและงดงามยามได้ยล กำลังจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ภายใต้แนวคิดของคนในชุมชน นำโดยมูลนิธิแก้วคุ้มครอง ที่ต้องการสร้างบางมูลนากให้เป็นเมืองน่าอยู่เหมือนสมัยก่อน ด้วยการรื้อ ฟื้น คืนความทรงจำผ่านเรื่องราวสะท้อนอัตลักษณ์และความรุ่งเรือง
ในอดีต ไว้ตามพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นแลนด์มาร์กของชุมชน เพื่อกระตุ้นให้คนรุ่นหลังตระหนักถึงรากเหง้าของตนเอง และผู้เฒ่าผู้แก่ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ไร้ค่า ส่วนนักท่องเที่ยวก็อยากเดินทางมาเยือน
เพราะได้ซึมซับสิ่งที่มีคุณค่ากลับไป ดังเช่นการเดินทางมาเยือนครั้งนี้ แม้ปัจจุบันการมาเยือนบางมูลนากจะมีเส้นทางให้เลือกเดินทางสะดวกสบายหลายเส้นทาง แต่การนั่งรถไฟถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง
จากกรุงเทพฯ ที่สถานีหัวลำโพงมายังสถานีบางมูลนาก ราวๆ 6 ชั่วโมงกลับไม่น่าเบื่อ เพราะทุกคนมัวตื่นเต้นกับการย้อนเวลาด้วยขบวนรถไฟสายคลาสสิกนี้นั่นเอง โดยเฉพาะเมื่อก้าวลงสถานีบางมูลนาก
ศูนย์กลางแห่งการค้าข้าวในยุคที่เคยเฟื่องฟูอย่างที่สุดมาก่อน ความทรงจำเกี่ยวกับอดีตอันพร่าเลือน จากจุดตั้งต้นที่สถานีรถไฟ ไปถึงพิพิธภัณฑ์ชาวบางมูลนากและตลาดฟื้นอดีตซึ่งเพิ่งฟื้นฟูเสร็จ
ก็ค่อยๆ แจ่มชัดขึ้นทีละน้อย